10 อันดับ กล้องดิจิตอลขนาดพกพา ยอดนิยมในไทย
สำหรับช่างภาพระดับโปรแล้ว แน่นอนว่าต้องการคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดเท่าที่กล้องจะเสนอได้ เซนเซอร์แบบ Full-Frame ถึงเป็นคำตอบสุดท้ายของคุณค่ะ เซนเซอร์ประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่ โอบรับแสงได้เยอะกว่า ยิ่งทำให้ได้รายละเอียดภาพที่สวยงามมากขึ้น ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติและวันนี้เราจะมาแนะนำ 10 อันดับกล้องดิจิตอลขนาดพกพา ยอดนิยมในไทยกัน
แม้ความแรงของแบรนด์จะแผ่วเบาไปเมื่อพูดถึงกล้อง Mirrorless แต่วันนี้ Canon ได้ส่งกล้องรุ่นใหม่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกล้อง Full-Frame ที่กะทัดรัด ราคาประหยัดที่สุดออกมา เพื่อดึงความสนใจจากผู้ใช้ระดับ Beginner ที่เน้นทั้งถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
กล้องให้ความละเอียดภาพ 26.2 MP ช่องมองภาพแบบ EVF สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 5 FPS ที่แม้จะไม่มากนักแต่ก็แลกมาด้วยเซนเซอร์ระดับโปร สามารถถ่ายวิดีโอได้ระดับ 4K พร้อมหน้าจอที่หมุนได้แบบ Free-Angle เพิ่มความสะดวกในการถ่ายอีกระดับ เรื่องเลนส์เสริมก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะด้วยการติด Adaptor ตัวเดียวก็จะทำให้ใช้เลนส์จาก DSLR ของแบรนด์ได้เลย สำหรับข้อเสียช่างภาพที่ระดับสูงกว่าพื้นฐานอาจจะรู้สึกว่าตัวกล้องไม่ได้สมดุลกับเลนส์และไม่มีระบบกันสั่นในตัวค่ะ
กล้อง Mirrorless จากผู้ผลิตชื่อดัง Sony มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ APS-C ความละเอียดที่ 24.3 ล้านพิกเซล มีระบบออโต้โฟกัสที่เร็วที่สุดเพียง 0.06 วินาที ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 11 ภาพต่อวินาที หากใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแอคชั่น กีฬา หรือภาพที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว กล้องรุ่นนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ดีเลยทีเดียวหน้าจอแสดงผลเป็นแบบ LCD มาพร้อมช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตัวกล้องมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ดีไซน์สวย ที่สำคัญมี Wi-Fi ให้ในตัวอีกด้วย แม้ SONY จะมีกล้องรุ่นใหม่ ๆ ออกมาแล้วแต่รุ่นนี้ก็ยังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ด้วยสเปกที่ไม่ห่างจากรุ่นใหม่ ๆ มากและราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ที่หันมาถ่ายภาพด้วยกล้อง Mirrorless
เป็นกล้องตัวล่าสุดในตระกูล X-T ของ Fuji ที่อัพเกรดหลาย ๆ ฟังก์ชันให้ดีขึ้น มีความละเอียดภาพถึง 26 MP พร้อมเซนเซอร์ APS-C, X-Tran รุ่น 4 ที่ตอบสนอง ISO ต่ำสุดได้ดีขึ้นช่วยลดปัญหา Noise ในภาพได้ดีกว่าเดิม ระบบโฟกัสอัตโนมัติและชัตเตอร์ที่แม่นยำรวดเร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายแบบ Tracking และยังโฟกัสตรวจจับใบหน้าและดวงตาได้ดีขึ้นอีกด้วย อีกข้อที่โดดเด่นมากคือสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 30 FPS ซึ่งหายากในกล้องรุ่นใกล้เคียงกัน
และสิ่งที่ผู้ใช้รักในตัวกล้อง Fuji คือรูปทรงที่ดูย้อนยุค เห็นถึงความประณีตในการทำ และวัสดุโครงสร้างที่ทนทานทุกสภาพอากาศ อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับ Buffer อายุแบตเตอรี่ที่น้อยไปหน่อย และยังไม่มีระบบกันสั่นในตัว
ถ้าเน้นการถ่ายวิดีโอ, Vlog, ต้องการกล้องที่ทนทานทุกสภาพแวดล้อม ก็ต้องจัดกล้องรุ่นนี้จาก Panasonic ที่ให้คุณภาพการถ่ายวิดีโอระดับ Cinema 4K ที่เอาไปใช้ถ่ายภาพยนตร์ก็ยังได้ และสามารถถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 60 FPS (4K Photo) ที่จับภาพได้ดั่งใจต้องการ มีเทคโนโลยี Dual Native ISO ที่ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า และลดการเกิด Noise แม้ใช้ ISO ระดับสูง
หน้าจอทัชสกรีนที่หมุนได้อิสระ ยิ่งช่วยส่งเสริมการถ่ายวิดีโอให้ได้หลากหลายมุมมองมากขึ้น โครงกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยแบบหล่อทั้งชิ้นรับรองความแข็งแรง พร้อมโครงสร้างที่ทนน้ำกระเซ็น ทนฝุ่น ทนอุณหภูมิต่ำสุด -10 องศา พกไปถ่ายที่ไหนก็ไม่กลัว จุดด้อยสำหรับผู้ใช้เน้นถ่ายภาพนิ่งอาจจะอยู่ที่ระดับความละเอียดภาพนิ่งที่อยู่แค่ 10 MP และไม่มีระบบกันสั่น
กล้องที่ถือว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สำคัญในการเปิดตัวประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแบรนด์ Nikon และวงการกล้องถ่ายภาพ เพราะกล้องตัวนี้เป็นกล้อง Mirrorless ระดับโปรตัวแรกที่ใช้ Z Mount ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดเปิดทางให้แบรนด์สร้างอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเลนส์ หรือระบบป้องกันการสั่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เซนเซอร์แบบ Full-Frame บวกกับความละเอียดมากถึง 45.7 MP จำนวนจุดโฟกัส 493 จุดและช่องมองภาพแบบ EVF ความละเอียดสูงที่หลายรีวิวให้คำชม ข้อดีอีกอย่างคือดีไซน์ของตัวกล้องที่ได้สมดุลและกริปที่จับได้ถนัดมือ ข้อเสียคือ มีน้ำหนักเยอะ และราคาแรงมาก ๆ มีช่องใส่ Memory Card แค่ช่องเดียวและเลนส์เสริมยังมีน้อยต้องซื้อ Adaptor มาใส่เพื่อใช้กับเลนส์ DSLR ไปก่อนค่ะ
กล้อง Mirrorless ดีไซน์สวยสุดคลาสสิค น้ำหนักเบาจาก Panasonic มาพร้อมเซ็นเซอร์รับภาพขนาด Micro Four Thirds ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โฟกัสได้ไวและแม่นยำ ทั้งยังมีฟังก์ชันเอาใจคนรักเซลฟี่มากมาย เช่น 4K Wide Selfie และ Night Selfie Mode ทำให้คุณถ่ายเซลฟี่ได้ในมุมภาพที่กว้างขึ้นและคมชัดทั้งคนและวิวด้านหลัง
นอกจากนี้ก็ถ่ายวิดีโอได้สวยด้วย 4K จอแสดงผลเป็นแบบสัมผัสปรับพับองศาได้ 180 องศา ด้านหน้าตัวกล้องมีกริปให้คุณจับได้ถนัดมือยิ่งขึ้น มี Wi-Fi ให้ในตัว และมีตัวกล้องที่สีสันน่ารักสดใสกว่าแบรนด์อื่น ๆ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างยิ่ง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ แม้จะไม่ใช้รุ่นใหม่ล่าสุดแต่สเปกกล้องตัวนี้จะทำให้คุณพอใจในราคาที่เอื้อมถึงค่ะ
ต่อมากันที่ Panasonic Lumix DMC-GX85 ดีไซน์กระทัดรัดแต่ครบครันสำหรับมือใหม่ที่อยากเล่นอะไรเยอะๆ อาจจะเป็นปัญหาเล็กน้อยสำหรับสายเซลฟี่เพราะจอทัชสกรีน พับได้แต่ไม่มากเท่ารุ่นอื่นๆ แต่ก็มีสิ่งที่มาทดแทนได้หลายอย่าง ไล่มาตั้งแต่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ดูเหมือนน้อยแต่ก็มากพอสำหรับเฟสบุ๊ค ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดที่ 1/4000 วินาที จุดโฟกัสกว่า 49 จุด ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยโมหด AF-S ได้ 10 ภาพต่อวินาที มี Wifi ในตัวให้สามารถส่งภาพหลังกล้องได้เลย พร้อมกับกันสั่น 5 แกน ให้คุณมั่นใจว่าจะได้ภาพไม่สั่นไหวแน่นอน
ถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้อย่างมืออาชีพ หรือจะใช้ฟังก์ชัน Post Focus ที่ให้เราถ่ายภาพก่อนแล้วมาปรับตำแหน่งโฟกัสได้ภายหลัง ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ Panasonic Lumix DMC-GX85 ได้จัด Filter การถ่ายภาพมาให้คุณมากถึง 22 แบบ เลือกกันให้ตาลายกันไปเลย ขอเล่าถึง 2 แบบเด่นๆ
โหมด L Monochrome ซึ่งเป็นภาพสไตล์ขาวดำอาร์ทๆแบบพิเศษที่แตกต่างจาก monochrome ปกติเป็นรูปขาวดำแบบ Low Contrast ทำให้ดูภาพแล้วรู้สึกกลมกล่อม ไม่เหมือนขาวดำทั่วไป หรือจะเป็นโหมดโฟกัสเงียบ กล้อง Mirrorless ยุคหลังๆมักจะมากับฟีเจอร์นี้ซึ่งหากเป็นเหมือนก่อนโหมดนี้ทำได้เพียงแค่ลดเสียงเท่านั้นแต่ Panasonic Lumix GX85 ตัวนี้ สามารถปิดเสียงชัตเตอร์ได้ 100% นั้นคือไม่มีเสียงเลย มีประโยชน์มากๆในที่งดใช้เสียง
Fujifilm เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วใน Fujifilm X-A2 ที่ทำให้ยอดขายกล้อง Mirrorless รุ่นที่ใหญ่กว่าจากค่ายอื่นเงียบไปตามๆกัน และรอบนี้ก็จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งกับ Fujifilm X-A3 ที่ดีไซน์มาเอาใจแฟนๆชาวไทยที่รักการการเซลฟี่ เริ่มต้นจากจอพับและทัชสกรีนได้ พร้อมกับน้ำหนักเพียง 339g ให้สาวๆถือถ่ายรูปตัวเองได้แบบไม่ต้องง้อใคร เซ็นเซอร์รับภาพแบบ APS-C CMOS ความละเอียด 24.3 ล้านพิกเซล หรือคือการชัดแบบเหลือๆให้เฟสบุ๊คต้องหันมามองกันเลยทีเดียว มากับจุดโฟกัสกว่า 77จุด ทำให้ถ่ายภาพในที่มืด หรือทำหน้าชัดหลังเบลอได้ดี มีชัตเตอร์แบบไฟฟ้า (Electronic Shutter) ที่เร็วได้ถึง 1/32000 วินาที ทำให้ใครที่อยากถ่ายรูปกับแดดจ้าทำได้ง่ายและยังคงละลายหลังได้อยู่
สามารถถ่ายวีดีโอแบบ Full HD และมีกันสั่น 5 แกน มี Wifi ให้สามารถส่งภาพและสั่งงานผ่านแอพได้ กดชัตเตอร์ หรือเปลี่ยนค่าต่างๆ และสั่งพิมพ์ภาพออกไปที่ Instax Share ได้จากตัวกล้องและสมาทโฟน ถ่ายเสร็จปริ้นแล้วส่งให้คนที่คุณแอบชอบได้เลย ไม่ต้องกลัวแบตหมดแล้วไม่มีที่ชาร์จเพราะเจ้า X-A3 สามารถชาร์จไฟได้จาก Power Bank
มาดูจุดขายหลักๆของสายเซลฟี่กันมั่ง แค่ยิ้มกล้องก็ถ่ายเอง โดยจับจากโครงสร้างใบหน้า ไม่ต้องเสียสมาธิเอานิ้วมากดกล้องเลย หรือจะเป็น โหมด Portrait Enchancer ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียน สามารถปรับได้ 3 ระดับ
หรือจะเป็น Advanced Filter 11 รูปแบบ โดยแบบที่เพิ่มขึ้นก็คือ Star Filter ที่ถ่ายแล้วจะสร้างประกายแฉกในตำแหน่งที่มีแสงสะท้อนเกิดขึ้น ไม่ได้เกิดแบบไม่มีเหตุมาผลนะ ท่านที่ยังชื่นชอบถ่ายภาพพอร์ตเทรทในความฝันก็ยังมี Soft Focus ให้เลือกใช้งานสวยเหมือนเดิม แต่ถ้าบอกว่าขอปรับแค่โทนสีก็พอก็ต้องไปปรับเลือกใน Film Simulation ที่ทางฟูจิฟิล์มมีความชำนาญสูงนำทักษะในการผลิตฟิล์มถ่ายภาพมาสร้างสรรค์เป็นซอฟท์แวร์ได้อย่างเลอค่าทั้งภาพสี และภาพขาวดำ อาทิ Astia, Provia, Velvia, Black&White R Filter ภาพที่แสดงผลในจอความละเอียด1.04ล้านจุดนั้นคมชัดมาก
ถ้าจะให้สรุปความรู้สึกสำหรับ X-A3 น่าจะเป็นการเพิ่มเติมความเป็นเซลฟี่เข้ามาให้เหมาะกับคนไทย และรักษาคุณภาพความสดใสของๆเดิมเอาไว้ได้อย่างครบครัน ไม่ต้องไปตามหาแอพกันให้วุ่นวายมีเจ้า X-A3 ตัวเดียวก็ครบแล้ว
มาถึงสุดยอดของ Mirrorless ณ ตอนนี้ของค่าย Sony ที่จัดอัดทุกอย่างที่ดีที่เทพใส่ไว้ในกล้อง Mirrorless ตัวเล็กอย่าง Sony A9 ที่เริ่มต้นด้วยการการันตีรางวัล กล้องยอดเยี่ยมแห่งปี จาก EISA ถือเป็นรางวัลเกียรติยศของวงการกล้องถ่ายภาพ แค่เปิดด้วยรางวัลขนาดนี้ความอยากกิเลสก็บังเกิดแล้ว
มาดูกันถึงสิ่งที่ทำให้ได้รางวัลระดับนี้มากัน เริ่มต้นด้วยใช้เซ็นเซอร์ CMOS แบบ Full Frame คือได้ภาพใหญ่ไม่ถูกตัดอย่างแน่นอน ช่องมองภาพแบบ EVF ที่ให้ภาพเหมือนจริงก่อนถ่ายภาพจริง จอทัชสกรีน ถ่ายภาพได้ต่อเนื่องสูงสุด 20 ภาพต่อวินาที ความเร็วชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ 1/32000 วินาที โดยการติดตั้งระบบชัตเตอร์ 2 ระบบ ด้วยกันคือ ระบบชัตเตอร์ที่เป็นกลไก (Mechanic) และระบบชัตเตอร์แบบ Electronic สามารถเลือกใช้งานได้ในเมนูกล้อง ว่าจะเลือกใช้แบบไหน หรือ จะเลือกใช้แบบ Auto ทำงานร่วมกัน นี่ซิถึงจะเหมาะสมกับความเทพ แต่ยังไม่จบแค่นั้น
ค่าความไวแสงสามารถดันได้สูงถึง 204,800 (แบบขยายแล้ว) เรียกว่าสามารถถ่ายได้ทุกสภาแสงที่เราไป ที่ทำได้แบบนี้เพราะมีชิปประมวลผลความเร็วสูง และประมวลภาพถ่ายด้วยเทคโนโลยี BIONZ X โฟกัสอัตโนมัติสามารถทำได้ถึง 5 ขั้น เพื่อจับโฟกัสของวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว จับโฟกัสได้ 693 จุด หรือสร้างความหนาแน่นของการโฟกัสได้ ร่วมกับ Contrast Detection ที่มีพื้นที่โฟกัสมากถึง 25 พื้นที่ ในการตรวจจับ Contrast ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การจับภาพแบบ Fast Hybrid AF System ทำให้จับสีหน้าดวงตาได้แม่นยำ ทำงานเงียบมาก ด้วยระบบกันสั่นแบบ 5 แกน
โอนถ่ายภาพและวีดีโอผ่าน FTP ผ่านระบบ LAN ทำมาสำหรับการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ หรือจะใช้ Wifi ปกติก็มี หรือจะควบคุมกล้องผ่านแอพในโทรศัพท์ก็ยังทำได้ พร้อมกับถ่ายวีดีโอคุณภาพ Full HD 4K
ที่เล่าคุณสมบัติมา Sony A9 ต้องถือว่าเป็นกล้องระดับมืออาชีพกล้องหนึ่งที่น่าใช้งาน ด้วยน้ำหนักกล้องแม้จะรวมเลนส์อีก 3 ตัวแล้ว ก็ยังมีน้ำหนักที่ออกภาคสนามได้อย่างสบายๆ ไม่เป็นภาระเมื่อเทียบกับน้ำหนักของ DSLR ความแข็งแรงทนทานของกล้องทนทานต่อการใช้งานหนักได้ดี ระบบโฟกัสรวดเร็วทันใจ โฟกัสติดตามวัตถุได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ด้วยความเร็วสูง มั่นใจได้ว่า จะไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของคุณ และแถมท้ายด้วย ภาพคมชัด สีสดใส ถ่ายอะไรก็ดูสมจริงดั่งตาเห็น
เป็นที่ฮิตติดท็อป 3 ของเว็บรีวิวกล้องดิจิตอลของหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก กับกล้อง Mirrorless ของ Nikon ที่ชาวนิกรทั้งมือใหม่มือเก๋าทั้งหลายรอคอยมานานและก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ด้วยสเปกขั้นเทพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเซนเซอร์ Full-Frame, ความละเอียด 24.5 MP ให้ได้ไฟล์ภาพที่สมบูรณ์แบบ รองรับการถ่ายภาพในที่มืดหรือถ่ายภาพโดยใช้ ISO สูง ได้เป็นอย่างดี
ช่องมองภาพ EVF ความละเอียดสูงจับภาพได้คมไม่เกิดการดีเลย์ สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 12 FPS ซึ่งถือว่าทำได้ดีสำหรับความละเอียดภาพระดับนี้ ที่ชมกันมากในรีวิวคือรูปร่างที่แสนจะกระชับเข้ากับมือ และปุ่มบังคับต่าง ๆ ที่อยู่ถูกที่ถูกทางและการอัพเดทซอฟแวร์อย่างต่อเนื่องของแบรนด์ แม้เลนส์เสริมยังมีน้อยถ้าไม่ใช้ Adaptor แต่เป็นกล้องที่พูดได้ว่าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่สนใจ จริงจังกับการถ่ายภาพค่ะ
Post a Comment