โปรแกรมตรวจจับความเร็วรถยนต์เกินกำหนด
ระบบตรวจจับความเร็ว คือระบบตรวจจับยานพาหนะที่มีการใช้ความเร็วในการขับขี่บนท้องถนนเกินกว่าที่ทางกฏหมายกำหนดเอาไว้ ซึ่งถือเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ ของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในปัจจุบัน โดยระบบจะทำงานร่วมกับกล้อง IP Camera คุณภาพสูงในการจับภาพแบบ Real Time ควบคู่ไปกับอุปกรณ์ Sensor สำหรับตรวจจับความเร็วของรถ โดยระบบจะแสดงภาพรถที่วิ่งผ่านกล้องสำหรับจับภาพยานพาหนะและแสดงค่าอัตราความเร็วที่รถแต่ละคันขับขี่ เมื่อรถคันใดมีการใช้ความเร็วเกินกว่าค่าที่ได้กำหนดเอาไว้ ระบบจะทำการจับภาพของรถที่กระทำผิดที่เห็นลักษณะของตัวรถ และป้ายทะเบียนรถที่ชัดเจน
ซึ่งข้อมูลที่ได้ดังกล่าว สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐาน ในการแจ้งความกระทำผิดต่อผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ทำผิดกฏจราจรได้ต่อไป
• ระบบสามารถตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกฏจราจรได้
• ระบบสามารถตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรเกี่ยวกับข้อจำกัดการใช้ความเร็วบนท้องถนน
• ระบบรองรับความเร็วในการตรวจจับที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
• ระบบสามารถตรวจจับป้ายทะเบียนของรถที่กระทำผิดได้
• ระบบสามารถตรวจจับยานพาหนะได้ทุกประเภท
• มีระบบการบริหารจัดการข้อมูลเช่น การค้นหา บันทึก แก้ไขต่างๆ
• มีระบบส่งข้อมูลภาพผ่าน File transfer protocol
• รองรับฐานข้อมูล SQL,MySQL,Oracle,Postgres
• ระบบสามารถประยุกต์ใช้งานร่วมกับ ซอฟแวร์และระบบอื่นๆ เช่น แผ่นที่,report ต่างๆ
• ระบบสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวของรถกระทำผิดกฎจราจรได้
• มีระบบบริหารจัดการข้อมูลภาพเพื่อเป็นหลักฐาน และสามารถออกใบสั่งได้ถูกต้องตาม กฎหมาย
• กล้องสำหรับจับป้ายทะเบียนรถยนต์ เป็นกล้องที่ออกแบบมาสำหรับระบบ LPR โดยเฉพาะ
(** จำนวนที่ใช้ขึ้นอยู่กับจำนวนเลนถนนที่ต้องการตรวจจับ)
• กล้องสำหรับตรวจจับภาพรวมของยานพาหนะบนถนน (Overview) มีขนาดความละเอียดไม่น้อยกว่า 3MP เป็นกล้องแบบ Low Light (** จำนวนที่ใช้ขึ้นอยู่กับหน้างาน)
• มีควาละเอียดของภาพสูง (Network Camera) กรณีเป็นกล้อง Overview ความละเอียดไม่น้อยกว่า 3MP หรือดีกว่า
• กรณีเป็นกล้องจับป้ายทะเบียน LPR สามารถปรับเปลี่ยนระยะของเลนส์ได้ เพื่อให้ได้ระยะของภาพที่ต้องการ ขนาดของเลนส์ประมาณ 12-40mm หรือ 8-50mm
• มีเทคโนโลยี Low pass Filter สำหรับตัดแสงที่สว่างจ้า (แสงไฟหน้ารถ) เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน
• มีชุดอินฟาเรด สำหรับส่องภาพในเวลากลางคืน
• กล้องรองรับมราตฐานการใช้งานระดับ IP66 กรณีติดตั้งใช้งานภายนอก
• กล้องสำหรับวิเคราะห์ตรวจจับการฝ่าสัญญาณไฟจราจร (Overview) และ Housing
• กรณีเป็นกล้องจับป้ายทะเบียน LPR สามารถปรับเปลี่ยนระยะของเลนส์ได้ และ Housing
• ชุดอุปกรณ์เรดาร์ตรวจจับความเร็ว
• ชุด Infrared (กรณีในพื้นที่แสงน้อยและต้องการดูภาพกลางคืน)
• ชุดคอมพิวเตอร์ประมวลผลสเปกแนะนำ Corei7 Gen6 Speed 2.6GHz ,RAM 8GB ,HDD 1 TB Windows 7 professional or better หรือ Windows 10 professional or better
• เครื่องสำรองไฟสำหรับอุปกรณ์ในระบบ
• อุปกรณ์ Network Switch
• ชุดอุปกรณ์ Webserver (กรณีต้องการบริหารจัดการระบบที่ส่วนกลาง)
• อุปกรณ์ ADSL Router (กรณีต้องการลิงค์และดูข้อมูลจากส่วนกลาง)
• ตำแหน่งติดตั้งกล้องตรวจจับป้ายทะเบียน LPR และกล้อง Overview มีความสูง 5-6 เมตร สำหรับตรวจจับวัตถุในระยะ 12-15 เมตร (ติดตำแหน่งสะพานลอย หรือป้ายบอกทางที่มีลักษณะติดตั้งคร่อมถนนทั้งเส้น)
• กรณีตรวจจับความเร็ว 1 เลนถนนจะใช้กล้องตรวจจับภาพป้ายทะบียน 1 กล้อง และชุดเรดาห์ตรวจจับความร็ว 1ชุด และกล้องสำหรับจับภาพรวมของรถบนถนน ทำงานร่วมกับ Software ระบบตรวจจับความเร็ว
• มุมกล้องสำหรับตรวจจับประมาณลักษณะกดลงส่องเห็นป้ายทะเบียน
• มุมในการติดตั้งชุดเรดาห์ตรวจจับความเร็วรถในระย 12-15 เมตร
• ในมุมสำหรับจับป้ายทะเบียน และชุดเรดาห์ตรวจจับความร็ว จะต้องไม่มีวัตถุมาบดบัง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ
• การติดตั้งระบบตรวจจับความเร็ว สามารถติดตั้งได้ 2 แบบคือ ติดตั้งระบบเพื่อตรวจจับด้านหน้ายานพาหนะ หรือ ติดตั้งระบบเพื่อตรวจจับด้านหลังยานพาหนะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานที่ในการติดตั้งจริง
• กล้องตรวจจับป้ายทะเบียนจะทำงานสอดคล้องกับชุดอุปกรณ์เรดาห์ตรวจจับความเร็วของรถ คือเมื่อมียานพาหนะเคลื่อนที่เข้ามาในระยะทำงานของชุดอุปกรณ์เรดาห์สำหรับจับความเร็ว และระบบทำการตรวจสอบแล้วเข้าสู่เงื่อนไขใช้ความเร็วเกินกำหนดที่ตั่งค่าไว้ ก็จะทำการเก็บภาพของยานพาหนะคันดังกล่าวที่เห็นลักษณะตัวรถ และภาพป้ายทะเบียนที่ชัดเจน รวมทั้งระบุค่าความเร็วที่ยานพาหนะใช้ระหว่างกระทำผิด เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบสำหรับแจ้งความกระทำผิด
• การทำงานของชุดอุปกรณ์เรดาห์ จะทำการยิงคลื่นสัญญาณไมโครเวฟ ไปยังยานพาหนะที่แล่นเข้ามาจากนั้นสัญญาณเมื่อกระทบกับวัตถุจะสะท้อนคลื่นสัญญากลับมายังอุปกรณ์เรดาห์เพื่อทำการประมวลผลถึงความเร็วที่ยานพาหนะใช้ออกมารูปแบบ km/h (กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
• กล้อง Network Camera ที่ใช้ควรเป็นกล้องที่มีความละเอียดสูง
• กล้องสำหรับจับภาพป้ายทะเบียนควรเลือกกล้อง Network Camera ชนิดที่ออกแบบมาสำหรับใช้กับงานจับป้ายทะเบียนโดยเฉพาะจะช่วยทำให้การทำงานของระบบถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง กล้องที่ออกแบบมาสำหรับจับป้ายทะเบียนรถยนต์
• เลือกใช้งานระบบ Software ที่ได้มีการทดลองติดตั้งและใช้งานจริง และมีข้อมูลอ้างอิงที่ชัดเจน
• ควรตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้งานว่ารองรับกับระบบ Software ที่ใช้งานหรือไม่ ป้องกันการเกิดปัญหาในการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์
• มุมมองและตำแหน่งในการติดตั้งกล้อง ต้องมีการทดสอบก่อนการติดตั้งใช้งานจริง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
• บริเวณที่ยึดจับกล้องต้องไม่เกิดการสั่นไหว เพราะจะทำให้เกิดความผิดพลาดของข้อมูลได้
• ป้ายทะเบียนที่กล้องสามารถจับได้ควรมีความคมชัดตั้งแต่ 150-300 pixel จะช่วยให้ข้อมูลถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น
• กรณีต้องการจับภาพป้ายทะเบียนรถป้ายแดง และป้ายทะเบียนรถที่เป็นป้ายแบบกราฟฟิก ให้ตั้งกล้องจับภาพเป็นแบบ Night Mode เพื่อให้สามารถจับภาพป้ายได้ชนิดดังกล่าวได้
• ในพื้นที่ติดตั้งกล้องจับป้ายทะเบียน และกล้อง Overview จะต้องไม่มีวัตถุมาบดบัง เพราะจะมีผลต่อความถูกต้องและแม่นยำของระบบ
• การใช้งานระบบตรวจจับความเร็วจะใช้กล้องจับป้ายทะเบียน 1 กล้อง และเรดาห์ตรวจจับความเร็ว 1 ชุด ต่อการตรวจจับความเร็วรถ 1 เลนถนน (** กรณีต้องการตรวจจับมากกว่า 1 เลนถนน ก็สามารถเพิ่มอุปกรณ์สำหรับตรวจจับได้)
• ป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ชำรุด ไม่ชัดเจน หรือดัดแปลงแก้ไข นอกเหนือจากที่กรมขนส่งทางบกกำหนด อาจมีผลทำให้ความถูกต้องของข้อมูลลดลง
** กรมขนส่งกำหนดให้งป้ายทะเบียนรถยนต์มีขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร ยาว 34 เซนติเมตร
มีเครื่องหมายเป็นตัวอักษร ขส อยู่ภายในวงกลมอัดเป็นรอยดุนที่มุมล่างด้านขวา
• ระบบตรวจจับและอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์แบบ 1 กล้อง LPR : ราคา 70,000 บาท
โครงสร้างของราคา ขึ้นอยุ่กับจำนวนการสั่งซื้อ ความสามารถที่ต้องการ และการเชื่อมต่อระบบอื่นๆ โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
• โปแกรมถูกพัฒนาด้วยทีมงานคนไทย จึงสามารถ Customize โปรแกรมให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้
• สามารถใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิดได้ทุกยี่ห้อ ผ่านมาตราฐาน ONVIF หรือ RTSP
• สามารถ แจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ ไปยังโปรแกรม Video Management Software ที่ลูกค้าต้องการได้ ปัจจุบันรองรับ VMS ยี่ห้อ NxWitness, VIVOTEK VAST, 3T SMART และอื่นๆ
ติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเพื่อเดมโม่โปรแกรมได้ที่ 062-3656463
Post a Comment