ราคากล้อง กล้องดิจิตอล เช็คราคาทุกแบรนด์ ก่อนตัดสินใจซื้อ - ธันวาคม 2564
หลายคนที่มีกล้องดิจิตอลพกติดตัวไว้บางคนมีแบบ DSLR บางคนมีแบบ Compact ซึ่งการเลือกซื้อมานั้นบางครั้งอาจจะตัดสินใจจากโฆษณาชวนเชื่อ ซื้อตามคำแนะนำของคนรู้จัก หรือซื้อเพื่อความเท่ห์ แต่เมื่อนำมาใช้งานจริงกลับใช้ได้ไม่เต็มที่หรือใช้งานได้ไม่ถูกใจมากนัก ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองและเสียเวลา ดังนั้นการเลือกซื้อกล้อง ราคากล้อง กล้องถ่ายรูปที่เหมาะสมกับตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่าดังนี้ กล้องประเภท DSLRเป็นกล้องที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ช่างภาพ เนื่องจากมีความสามารถในการทำงานได้มากกว่า1อย่าง โดยปัจจุบันสามารถใช้กล้องประเภทนี้ถ่ายทำวีดีโอแทนกล้องวีดีโอแบบเก่าแล้ว กล้อง DSLR เป็นกล้องดิจิตอลที่มีความสามารถในการถ่ายภาพให้ออกมามีหลายมิติ มีความกว้าง ความลึก ที่สามารถกำหนดได้ด้วยตัวเอง มีความละเอียดของภาพที่ถือว่าดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกล้องชนิดอื่น สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ตามความพอใจ แต่กล้องประเภทนี้จะมีข้อเสียอยู่ที่อุปกรณ์เสริมค่อนข้างราคาแพง ขนาดของกล้องใหญ่ และเมื่อชำรุดค่าซ่อมจะค่อนข้างแพง ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจะเป็น Cannon และ Nikon กล้อง Compactเป็นกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้สะดวก กล้องประเภทนี้มีข้อดีอยู่ที่ความกะทัดรัดสามารถพกพาได้ง่าย ราคาไม่แพง มีโหมดการถ่ายแบบอัตโนมัติ ผู้ที่ถ่ายรูปไม่เป็นก็สามารถถ่ายได้ บางรุ่นสามารถเลือกปรับโฟกัสเองได้ แต่มีจุดด้อยในเรื่องมิติของภาพและความคมชัด จะน้อยกว่ากล้องประเภท DSLR กล้อง Compact เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความวุ่นวายในการถ่ายภาพ มียี่ห้อที่นิยม ได้แก่ Sonny Fuji Cannon เป็นต้น กล้อง Mirror less เป็นกล้องดิจิตอลที่คอนข้างตอบโจทย์ทำหรับผู้ที่อยากมีกล้อง DSLR แต่ไม่ต้องการกล้องที่มีขนาดใหญ่ กล้องประเภทนี้จะรวมข้อดีของกล้อง Compact และ DSLR ไว้ในตัวเดียวกัน โดยสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ตามใจชอบ มีมิติในการถ่ายภาพ ขนาดเล็กพกพาได้สะดวก แต่จะมีข้อเสียอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นการนำกล้อง 2 ประเภทมารวมกันในตัวเดียว ทำให้มีจุดด้อยในคุณภาพความชัดที่น้อยกว่ากล้อง DSLR เล็กน้อย ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยม คือ กล้อง Sony กล้อง Samsung และ Cannonเป็นต้น ทั้งหมดนี้คือความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนของกล้องดิจิตอล ที่ก่อนซื้อสามารถเลือกและดูความเหมาะสมว่าแบบไหนที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด หากชอบถ่ายภาพและชอบให้ภาพมีมิติมากก็สามารถเลือกแบบ DSLR ได้ หากชอบถ่ายภาพแต่ไม่ชอบความยุ่งยากก็อาจจะเลือกแบบ Compact หรือหากอยากได้ทั้งความชัดและความกะทัดรัดก็เลือก Mirror Less แต่ควรเป็นกล้องที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองได้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากกว่าการถือเพื่อความเท่ห์

เรื่องน่ารู้ก่อนเลือกใช้ กล้องดิจิตอล และ กล้อง dslr อย่างไร ให้ได้ภาพสวย ๆ อย่างที่ต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มืออาชีพหรือมือสมัครเล่น เพียงรู้เทคนิคและคุณสมบัติ กล้องดิจิตอล ที่จะใช้ให้ถูกกับงาน ก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยตามใจที่ต้องการได้ ด้วยความแตกต่างของกล้องดิจิทัล ทั้ง 3 แบบ 3 สไตล์ รวมถึง กล้อง dslr พร้อมราคาล่าสุดที่จำหน่ายในประเทศไทย
ด้วยการเติบโตทางเทคโนโลยีส่งผลให้กล้องถ่ายรูปในปัจจุบันเปลี่ยนไปเป็น กล้องดิจิตอล ที่ไร้ฟิล์ม สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวย คม ชัด เหมือนกล้องที่ใช้ฟิล์มถ่ายไม่มีผิดเพี้ยน พร้อมกันนี้ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชันและลูกเล่นเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ให้กับกล้องมากมาย ทำให้ยอดขายกล้องพุ่งสูงขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และยังมีประเภทต่าง ๆ ให้เลือกตามงบประมาณ เช่น กล้อง compact หรือ dslr หรือ mirrorless ซึ่ง ราคากล้องดิจิตอล ก็จะมีความแตกต่างกันตามฟีเจอร์เด่นของกล้องแต่ละแบบแต่ละรุ่น
กล้องดิจิตอล dslr มาพร้อมฟังก์ชันที่เหนือกว่ากล้อง compact และ กล้อง mirrorless
การมาของกล้องดิจิตอลแบบ dslr ทำให้ยอดขายของกล้องคอมแพคตกลงไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในรุ่นระดับท๊อปที่มีราคาใกล้เคียงกัน แม้ตัวกล้อง dsrl จะมีขนาดใหญ่ แต่ด้วยความสามารถที่เปลี่ยนเลนส์ได้และรองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นขาตั้งกล้อง, แฟลช ที่ดูเหมือนมืออาชีพ โดยเฉพาะฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในกล้องที่ออกแบบมาให้มือโปรใช้งาน ทำให้คนหันมาเล่น กล้องดิจิตอล ชนิดนี้กันเป็นจำนวนมาก ราคากล้องดิจิตอล dslr มีให้เลือกตั้งแต่หมื่นต้น ๆ ที่ยังไม่ได้เสริมเลนส์ ไปจนถึงระดับเกือบแสนบาท พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบมืออาชีพ ซึ่งราคาจะสูงกว่า กล้อง compact
กล้อง mirrorless มีจุดเด่นอย่างไร
กล้อง mirrorless คือ กล้องดิจิตอล ที่ไม่มีกระจกสะท้อนแบบกล้อง dslr จึงส่งผลให้รูปทรงเล็กกว่า พกพาได้ง่าย ที่สำคัญสามารถปรับเปลี่ยนเลนส์ได้ ในขณะที่ราคาพอ ๆ กันกับกล้อง compact จึงทำให้คนหันมาสนใจในกล้องรุ่นนี้มากขึ้น ด้วยความสามารถครบครันนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชัน หน้าชัดหลังเบลอ, ภาพมุมกว้าง, โหมดหน้าเนียน และการเชื่อมต่อ Wi-Fi เป็นต้น
กล้อง compact ยังน่าใช้อยู่หรือไม่
กล้อง compact ถือเป็น กล้องดิจิตอล รุ่นแรก ๆ ที่ได้รับการพัฒนามาจากกล้องใช้ฟิล์ม ด้วยความสะดวกในการใช้งาน พกพาได้ง่าย มีเมนูและฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ปรับการซูมได้หลากหลายระดับ ตัวเลนส์ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ยกเว้นบางรุ่นบางยี่ห้อที่มีราคาค่อนข้างสูง สนน ราคาของกล้องคอมแพคที่ได้รับความนิยม มีตั้งแต่หลักพันต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น คุณภาพของภาพที่ได้จะให้ความคมชัดมากกว่ากล้องมือถือทั่ว ๆ ไป ปัจจุบันมีการใส่ลูกเล่นและฟีเจอร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสั่น, การเชื่อมต่อ Wi-Fi เป็นต้น มีราคาซื้อหาได้ง่าย ถือว่าน่าใช้อยู่ เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษา หรือผู้ที่ไม่ได้เน้นการถ่ายภาพจริงจังแบบมือโปร หรือผู้ที่มีงบจำกัด หรือมือโปรอาจจะพกไว้เป็นกล้องตัวที่สองก็ได้
กล้องดิจิตอล ทั้ง 3 แบบ 3 สไตล์ มีให้คุณเลือกมากมายหลายแบรนด์ดัง ขึ้นอยู่กับความชอบและเงินทุน หากเป็นมือสมัครเล่น ชอบกล้องพกพาสะดวก ไม่ต้องหาอุปกรณ์เสริมให้ยุ่งยาก กล้อง compact เป็นตัวเลือกในลำดับต้น ๆ ส่วนใครที่จะพัฒนาการฝีมือการถ่ายภาพให้สูงขึ้นไปอีกขั้น อยากทดลองปรับเปลี่ยนเลนส์ตามใจชอบ กล้อง mirrorless ตอบโจทย์คุณได้แน่นอน แต่ถ้ามีฝีมือในระดับโปร และต้องการมีกล้องคุณภาพดีไว้ออกรับงานถ่ายรูปเพื่อขายแล้วล่ะก็ กล้องแบบ dslr คือตัวเลือกที่ใช่ของมืออาชีพ ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของกล้องแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลและงบประมาณด้วย
ในช่วงที่กล้องมีหลายประเภทมากขึ้น แล้วได้รับความนิยมอย่างไม่ขาดสาย หลายคนก็สงสัยว่ากล้อง ดิจิตอล มีหลายแบบมากมาย เราจะเลือกอย่างไรดี เลือกประเภทไหน แบบไหนเหมาะกับเรามาดูกัน
Compact – เหมาะสำหรับคนต้องการง่ายๆ ตัวเดียวจบ เพราะ กล้องคอมแพค จะเน้น ขนาดเล็ก พกง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ แต่เลนส์ระยะครอบคุมการใช้ทั่วไป เซนเซอร์ขนาดไม่ใหญ่มาก และราคาไม่แพง แล้วก็ยังมีกล้อง Compact Premium ซึ่งเน้นคุณภาพ และ หลายๆ รุ่นกันน้ำได้ด้วย DSLR like – เป็นกล้อง Compact ประเภทหนึ่ง แต่ดีไซน์และขนาดคล้าย DSLR และมีระยะซูมที่มากกว่าCompact ธรรมดา ส่วนคุณภาพนั้นไม่ได้ต่างจาก Compact เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้งานง่ายๆ แต่ต้องการถ่ายภาพช่วงระยะยาวๆ DSLR – กล้องดิจิตอลที่พิเศษตรงที่มีกระจกสะท้อน และเปลี่ยนเลนส์ได้ คุณภาพดีกว่า โฟกัสเร็ว เซนเซอร์ใหญ่ คุณภาพไฟล์ดี แบตทนทาน แต่จะมีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะ และมีระบบ manual ซึ่งอาจจะต้องศึกษาก่อนใช้ จึงเหมาะกับผู้ใช้งานจริงจัง ต้องการต่อยอดเป็นมืออาชีพ และใช้อุปกรณ์เสริมเยอะๆ Mirrorless – เหมาะสำหรับคนที่อยากถ่ายภาพง่ายๆ แต่มีคุณภาพ เพราะกล้อง Mirrorless นี้คุณภาพของภาพเทียบเท่า DSLR เลยแต่หลักการในการทำงานของกล้องต่างกัน คือจะเป็นกล้องที่ไม่มีกระจกสะท้อน แต่เปลี่ยนเลนส์ได้ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา มีขนาดเล็ก กระทัดรัด บางตัวนี่ความสามารถสูงกว่า DSLRที่ราคาเท่าๆ กันเลยก็มี แถมใช้เทคโนโลยีใหม่กว่า บางตัวสามารถลงแอพได้ เชื่อมต่อไวไฟ กับมือถือได้ด้วย จึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
กล้อง Full Frame เป็นกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ที่มีขนาดเท่ากับฟีล์ม 35 mm. ซึ่งกล้องประเภทนี้นั้นจะเป็นกล้องระดับโปร ราคาก็แพง เนื่องจากเซ็นเซอร์รับภาพที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเทียบได้กับฟีล์มถ่ายภาพในสมัยก่อนที่จะใช้ฟีล์ม 35 มม. ข้อดีของกล้อง Full Frame คือคุณภาพของภาพที่ถ่ายได้จะดีมากๆ เพราะว่ามีเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ มีพื้นที่รับแสงใหญ่ จึงรับแสงได้ดีกว่า เก็บรายละเอียดส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีกว่า ทำให้ภาพคมชัด และมี Noise หรือจุดรบกวนที่น้อยกว่า นอกจากนี้แล้ว องศาการรับภาพที่ถ่ายออกมาก็จะเท่ากับเลนส์ที่ใช้จริงๆ แถมช่วงความชัดลึก ก็เทียบเท่ากับกล้องฟีล์มในอดีต ทำให้สามารถเบลอฉากหลังได้ดีกว่า ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ดีและง่ายกว่า กล้องประเภทอื่นด้วย แต่ทั้งนี้อย่างที่บอกไปคือกล้องประเภท Full Frame นี้จะมีราคาค่อนข้างสูง ถ้าหากเราไม่ได้ใช้ถ่ายภาพเชิงธุรกิจ หรืออาศัยคุณภาพของภาพที่สูงมากนัก ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อกล้องที่เป็น Full Frame ก็ได้
ความละเอียดของกล้อง ก็คือจำนวน pixel ทั้งหมดบนตัวรับภาพ ซึ่งจำนวนพิกเซลของตัวรับภาพมีผลอย่างยิ่งต่อคุณภาพของภาพที่ได้ในด้านรายละเอียดและความคมชัด เนื่องจากกล้องที่มีจำนวนพิกเซลบนตัวรับแสงมากกว่าย่อมจะสามารถบันทึกรายละเอียดของภาพได้มากกว่า ความละเอียดของภาพโดยมากจะระบุจำนวนพิกเซลแนวนอน x แนวตั้ง เช่น 1366 x 768 พิกเซล และที่สำคัญที่เรามักเจออีกคำหนึ่งก็คือ megapixel คือหน่วยล้านของ pixel โดยค่าความละเอียดที่เหมาะสมและเพียงพอ ต้องดูว่าเราจะนำไปใช้งานอะไร ซึ่งเราก็มีข้อมูลความละเอียดของกล้องดิจิตอลที่เหมาะสมกับภาพถ่าย มาฝากกัน จะเห็นว่ายิ่งกล้องมีความละเอียดมากเท่าไร ยิ่งอัดขยายภาพได้ใหญ่ขึ้นเท่านั้น ความละเอียดของภาพจะทำให้ภาพคมชัด และได้ภาพที่สวยงามมากยิ่งขึ้น แต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่นเลนส์ ความไวของแสง และมุมมองการถ่ายภาพ
ระบบกันสั่นคืออะไร? กันสั่นในกล้อง หรือ กันสั่นในเลนส์ ดีกว่ากัน อาการกล้องสั่นไหวจะเกิดขึ้นเวลาที่ถ่ายภาพแบบถือด้วยมือ โดยใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้ากว่า “1/ทางยาวโฟกัส” วินาที ความเร็วชัตเตอร์อาจช้าลง เมื่อคุณถ่ายภาพในสถานที่ที่มืดหรือในที่แสงน้อย และทำให้เลี่ยงจากอาการกล้องสั่นไปได้ยากถ้าคุณถ่ายภาพโดยถือกล้องด้วยมือ ดังนั้นค่ายผู้ผลิตกล้องทั้งหลาย จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีกันสั้นขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาภาพสั่นไหว
ซึ่งระบบกันสั่นนี้ จะมี 2 แบบ คือ 1. ระบบ IS ในเลนส์ และ 2. ระบบ IS ในกล้อง ซึ่งความต่างของสองระบบนี้ มีดังนี้ 1. ระบบกันสั่นในกล้อง จะเป็นเทคโนโลยีที่ชดเชยการสั่นไหวโดยการขยับเซนเซอร์ภาพภายในบอดี้กล้อง ข้อดีของระบบกันสั่นแบบนี้คือ กันสั่นในระยะใกล้ๆ ได้ดีกว่า ชดเชย f ได้หลาย stop กว่า และไม่ว่าจะเอาเลนส์อะไรมาใส่กับกล้อง ระบบกันสั่นก็ทำงาน เพราะมันอยู่ในตัวกล้อง
2. ระบบกันสั่นในเลนส์ จะใช้หลักการวัดจากเมื่อเลนส์เอียงเพราะการสั่นไหวของกล้อง หรือของแสง ระบบก็จะทำให้ภาพถ่ายนิ่งโดยการขยับชิ้นส่วนในระบบออพติคอลภายในเลนส์ตามปริมาณการสั่นไหว แก้ไขภาพภายในเลนส์เลย ซึ่งกันสั่นในเลนส์นี้จะทำได้ดีกว่ากันสั่นในกล้องเมื่อถ่ายภาพในระยะ เกิน 100mm ขึ้นไป
Post a Comment