กล้อง Mirrorless ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022?

ด้วยความเร็วที่สูงทำให้กดซัตเตอร์ภาพได้มากขึ้น ภาพมีความละเอียดสูงแม้ถ่ายในที่มืดเพราะมีระบบการเก็บแสงที่ดีและสามารถปรับองศาแบบเอียงต่ำได้ สำหรับกล้อง Mirrorless รุ่นนี้ที่มาจาก Nikon นั้นได้มีการพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยีความคมชัดและความไวของเซ็นเตอร์ที่ชัดเจนขึ้น ทำให้เราได้ภาพที่สวยและสามารถเก็บทุกช่วงไว้ได้เป็นอย่างดี มาดูกันดีกว่าว่าส่วนอื่นนั้นมีอะไรเพิ่มเติมขึ้นบ้าง กล้องรุ่นนี้ได้ออกแบบมาให้ดูทันสมัย เน้นความเรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์ มีขนาดที่เล็กและกระทันรัดมากยิ่งขึ้น ทำให้สะดวกต่อการพกพาและการถือใช้งาน และมีในเรื่องของความคมชัดของเซ็นเซอร์ภาพแบบ CMOS ที่ความละเอียดถึง 20.8 ล้านพิกเซลทำให้สามารถจับภาพได้สวยงาม เร็วขึ้นและถ่ายภาพได้ 20 ภาพต่อ 1 วินาทีเท่านั้น มีออโต้โพกัสที่ตรวจวัดระยะห่าง 105 จุดเหมาะสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่รวดเร็วทำให้ไม่พลาดแม้จังหวะสำคัญในทริปของคุณ ในส่วนของหน้าจอเป็นแบบสัมผัส LCD ซึ่งสามารถปรับเอียงขึ้นได้ถึง 180 องศาและเอียงต่ำสุดได้ 86 องศา ทำให้คุณควบคุมกล้องไว้ได้อย่างลงตัว และสามารถถ่ายภาพได้แบบหลากหลายมุมหลายองศา สำหรับหมวดในการถ่ายภาพตัวเองแบบใหม่ บวกกับฟังก์ชั่น Glamour Retouch ช่วยให้การรีทัชภาพของคุณง่ายขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการปรับสีผิวหน้าให้นุ่นนวล การตั้งเวลาถ่าย และการชดเชยแสงที่ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่ารูปของคุณจะดูดีอย่างแน่นอน และในส่วนของการแชร์ภาพถ่ายของคุณนั้นก็หมดห่วงไปเลย เพราะคุณสมบัติ Wi-Fi® และ NFC*4 ในตัวของกล้อง J5 ให้คุณเลือกรูปภาพที่ต้องการจะโอนไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อน การเชื่อมต่อผ่านแอพ Wireless Mobile Utility*5 ฟรีสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android อีกทั้งคุณยังสามารถสั่งการถ่ายและบันทึกภาพด้วยกล้อง J5 จากระยะไกลได้อีกด้วย

ตอนนี้เราก็มาถึงยี่ห้อที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเจ้าแม่กล้องถ่ายรูปที่อยู่คู่กับวงการถ่ายภาพมานานมาก ๆ นั่นคือกล้องในตระกูล Canon โดยที่ Canon นั้นได้พัฒนากล้องในตระกูล Mirrorless นี้มาได้หลายปีพอสมควรและเรียกได้ว่าเป็นที่นิยมในตลาดไม่แพ้ยี่ห้ออื่น รุ่นที่เราจะมารีวิววันนี้ก็คือรุ่น EOS M10 ในราคาเบา ๆ เพราะรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับกล้อง Mirrorless รุ่นอื่น ๆ เราไปดูกันเลยว่าในกล้องตัวนี้มีอะไรให้เราเล่นบ้าง ก่อนอื่นความละเอียดของภาพที่ได้จากกล้องรุ่นนี้จะอยู่ที่ 18 ล้านพิกเซล ซึ่งอาจจะไม่มากเท่ารุ่นก่อนหน้านี้แต่ว่าด้วยราคาที่ไม่แพง ที่ความละเอียดเท่านี้ก็ถือว่ามากมายเกินความจำเป็น เมื่อดูที่บอดี้ของกล้องจะเห็นว่ากล้องมีขนาดกะทัดรัดกระชับมือมาก และเหมาะกับการถ่ายวีดีโอมากเนื่องจากสามารถถ่ายที่ความละเอียด HD ได้ หน้าจอของตัวกล้องสามารถพับขึ้นเพื่อถ่ายเซลฟี่ได้และเป็นหน้าจอสัมผัส ทำให้สามารถควบคุมโหมดต่าง ๆ ได้จากหน้าจออีกทางหนึ่ง ในเรื่องของระบบโฟกัสนั้นกล้องรุ่นนี้จะใช้ระบบโฟกัสแบบผสม (Hybrid) นั่นคือ การพบกันเพื่อตรวจจับผลต่างเฟสและการโฟกัสเพื่อตรวจจับความคมชัดของภาพที่จะถ่ายที่จับโฟกัสอัตโนมัติได้ถึง 49 จุด ส่วนความไวแสงนั้นอยู่ที่ 100-12,800 แต่ดันแบบพิเศษได้ถึง 25,600 และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับยุคไฮเทคของเราในปัจจุบันนั่นคือการเชื่อมต่อกล้องถ่ายรูปของคุณเข้ากับสมาร์ทโฟน โดยที่กล้องรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์สื่อสารเพื่อให้ผู้ใช้งานส่งภาพผ่าน Wi-Fi ได้และสามารถออกคำสั่งให้ถ่ายภาพบนมือถือได้ ส่วนการเชื่อมต่อระหว่างกล้องกับอุปกรณ์สื่อสารนั้นจะใช้แอปพลิเคชั่นของ Canon ที่เรียกว่า Canon Connect

เมื่อพูดถึงกล้องถ่ายรูปในตระกูล Sony แล้วเราจะทราบกันดีว่า Sony นั้นเป็นกล้องที่คุณภาพสูง และรุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นกล้อง Mirrorless สุดหรูราคาไม่เบาที่ได้รับความนิยมในหมู่ช่างภาพมืออาชีพเนื่องจากเป็นกล้องที่มีเซ็นเซอร์แบบเฟรมเต็ม และมีคุณสมบัติอื่น ๆ มากมาย รวมถึงฟังก์ชันที่ใช้งานที่หลากหลายมาก ๆ เมื่อเทียบกับกล้องรุ่นอื่น กล้องรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องกันด้วยความเร็วสูงสุดถึง 20 เฟรมต่อวินาทีเลยทีเดียวซึ่งถือว่าสูงมาก เมื่อพูดถึงความไวแสงของกล้องรุ่นนี้ก็หายห่วงเลยเนื่องจากมี ISO สูงถึง 204800 (แบบขยาย) โดยมีการออกแบบโครงสร้างเรืองแสงด้านหลัง และมาพร้อมกับระบบประมวลผลสัญญาณภาพระบบความเร็วสูง (High-speed) และระบบประมวลผลของภาพถ่ายที่ได้ใช้เทคโนโลยี BIONZ X ความเร็วสูง ซึ่งทำให้สามารถจับภาพเคลื่อนไหว อย่างภาพถ่ายกีฬาหรือภาพถ่ายสัตว์ป่าได้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง พร้อมเก็บทุกรายละเอียดของภาพได้อย่างชัดเจน ทำให้ได้ภาพเสมือนจริงและเป็นธรรมชาติมาก กล้องรุ่นนี้จะใช้เซ็นเซอร์ CMOS ส่วนระบบแสดงภาพนั้นจะใช้ระบบ EVF ที่ให้เพื่อน ๆ ได้ภาพเสมือนจริงมากที่สุดก่อนถ่ายภาพ และกล้องรุ่นนี้ถือว่าล้ำหน้ากว่ากล้องรุ่นอื่น ๆ ในเรื่องของความหน่วงภาพเคลื่อนไหวกับเวลาที่แสดงภาพที่หน้าจอ เนื่องจากได้รับการพัฒนามาเพื่อการถ่ายภาพเคลื่อนไหวและถ่ายวีดีโอด้วย ส่วนระบบโฟกัสอัตโนมัตินั้นสามารถปรับระดับได้ถึง 5 ขั้น เพื่อให้สามารถจับโฟกัสของวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อพูดถึงความสามารถในการถ่ายวีดีโอ ด้วยราคาที่สุดหรูของกล้องรุ่นนี้เทคโนโลยีหนึ่งที่กล้องตัวนี้มีก็คือ สามารถถ่ายภาพยนตร์ความละเอียดสูงขนาด 4K ได้สบาย ๆ ส่วนความสามารถของชัตเตอร์สามารถทำงานด้วยความเร็ว 1/32000 วินาที และทำงานเงียบมากเนื่องจากเป็นชัตเตอร์ที่ไม่มีกลไกทางกายภาพ แต่เป็นชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่ล้ำหน้าไปอีกขั้นใหญ่ ๆ เลยทีเดียว เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหว เช่น ภาพกีฬา ส่วนระบบโฟกัสของกล้องรุ่นนี้ถือว่าไฮเทคสุด ๆ เนื่องจากสามารถจับโฟกัสได้ถึง 693 จุดหรือสร้างความหนาแน่นของการจับโฟกัสในภาพที่กำลังจะถ่ายได้ถึงร้อยละ 93 ของภาพ ระบบจับภาพนั้นเป็นแบบผสมที่เรียกว่า AF Hybrid AF ทำให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างแม่นยำ ฟังก์ชั่น Enhanced Eye AF ช่วยให้สามารถตรวจจับการแสดงออกทางสีหน้าและสามารถโฟกัสดวงตาได้อย่างแม่นยำ ส่วนความสามารถของกล้องรุ่นนี้ในการถ่ายภาพในบริเวณที่แสงน้อยหรือถ่ายภาพในเวลากลางคืนก็ไม่ต้องห่วงเลย เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการถ่ายภาพตอนกลางคืน ตัวเลนส์ก็เคลือบฟลูออรีนเพื่อป้องกันฝุ่นละออง ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มีความแข็งแรง ทนทาน กล้องรุ่นนี้มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่สามารถปรับได้ถึง 5 แกน ทำให้สามารถถ่ายทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในบริเวณที่แสงมากและแสงน้อย และนอกจากคุณลักษณะอื่น ๆ ที่มีมากมายนานับประการของกล้องรุ่นนี้ อีกหนึ่งฟังก์ชันที่อยากจะพูดถึง คือ คุณสามารถถ่ายโอนไฟล์ภาพหรือวีดีโอผ่าน FTP (File Transfer Protocol) ผ่านระบบ LAN ได้ ซึ่งระบบนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้คุณถ่ายโอนไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ ได้ ส่วนการถ่ายโอนภาพที่ไม่มีขนาดใหญ่มากตามก็สามารถใช้งานบลูทูธหรือ Wi-Fi และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารได้ โดยใช้แอปฯ PlayMemories Mobile ทั้งนี้เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถควบคุมตัวกล้องจากอุปกรณ์สื่อสารอย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้

ต่อไปเรามาดูอีกรุ่นของกล้อง Mirrorless ในตระกูล Sony กัน กล้องรุ่นนี้ถือว่าคุณภาพดีและน้ำหนักไม่มาก แค่ 200 กรัม ส่วนเลนส์ของตัวกล้องอยู่ที่ขนาด 16-50 มิลลิเมตร สามารถเปลี่ยนผ่านเลนส์ได้ Sony alpha นั้นเป็นตระกูลที่เรียกได้ว่าให้การถ่ายภาพระดับมืออาชีพ เนื่องจากสามารถปรับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้การโฟกัสแบบผสมที่เรียกว่า Hybrid AF phase detection (การตรวจจับผลต่างเฟส) และสามารถจับโฟกัสได้ถึง 179 จุดเลยทีเดียว กล้อง Mirrorless รุ่นนี้จะใช้การประมวลผล BIONZ X™ ทำให้ได้ภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพเยี่ยม ส่วนตัวกล้องนั้นประกอบไปด้วยหน้าจอที่สามารถพับได้ 180 องศาเพื่อให้ง่ายต่อการถ่ายภาพเซลฟี่ แถมยังสามารถตั้งเวลาการถ่ายเซลฟี่ได้ด้วย การปรับโหมดต่าง ๆ ก็สามารถทำได้บนหน้าจอเนื่องจากเป็นจอสัมผัส ซึ่งรุ่นนี้พัฒนามาจาก Sony alpha รุ่นก่อนที่หลายคนเรียกร้องว่าให้หน้าจอเป็นแบบสัมผัส เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แล้ววันนี้ก็ไม่แพ้รุ่นอื่นเนื่องจาก Sony ได้พัฒนาการเชื่อมต่อกล้องถ่ายรูปเข้ากับอุปกรณ์สื่อสารผ่าน Wi-Fi มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยที่รุ่นนี้ยังสามารถส่งไฟล์ขนาดใหญ่ผ่านทาง NFC ได้อีกด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น ไฟล์วีดีโอ ส่วนความไวแสง ISO ของกล้องรุ่นนี้อยู่ที่ 100-25600 เซ็นเซอร์รับภาพเป็นแบบ CMOS รุ่นนี้มีข้อดีอย่างหนึ่งคือมีปุ่มที่สามารถปรับซูมเข้า-ออกได้ถึง 2 จุดนั่นคือ ที่ตัวเลนส์และที่ปุ่มขยายเข้าขยายออก ทำให้สะดวกมากขึ้นในการซูมภาพ สำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องของกล้องรุ่นนี้ก็ไม่น้อย สามารถทำได้อยู่ที่ 6 ภาพต่อวินาที

มาถึงกล้องยี่ห้อใหม่ที่อาจจะยังไม่ได้มีชื่อเสียงมากในตลาดบ้านเราสำหรับกล้อง Mirrorless แต่ตระกูล YI ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากและได้รับการยอมรับในวงการช่างภาพพอสมควร โดยกล้องรุ่นนี้จะมีเลนส์อยู่ที่ขนาด 12-40 มิลลิเมตร ตัวกล้องรุ่นนี้จะใช้เซ็นเซอร์ Sony Exmor IMX269 ที่มีความละเอียดอยู่ที่ 20 ล้านพิกเซล และส่วนสําคัญที่ถือเป็นคุณสมบัติชูโรงของกล้องรุ่นนี้ก็คือ สามารถถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 4K ได้ และรองรับการบันทึกวิดีโอแบบ Time Lapse ได้ หน้าจอสัมผัสของตัวกล้องก็ใช้งานง่ายทำให้สามารถค้นหาการตั้งค่าของตัวกล้องได้อย่างรวดเร็ว กล้อง Mirrorless รุ่นนี้ประมวลผลภาพด้วยเทคโนโลยี ISP และมีความไวแสงอยู่ที่ 100-25600 มีความเร็วชัตเตอร์อยู่ที่ 1/4000 – 60 วินาที สามารถโฟกัสอัตโนมัติได้ 81 จุดและโฟกัสหน้าคนได้ 32 คน ในส่วนของหน่วยความจำสามารถรองรับเมมโมรีการ์ดได้สุดถึง 512 GB นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ผ่านทาง Wi-Fi และ Bluetooth ทำให้สามารถควบคุมการตั้งค่าต่าง ๆ ของกล้อง Mirrorless รุ่นนี้ได้จากอุปกรณ์สื่อสารผ่านแอปพลิเคชั่นนั่นเอง ตัวกล้องใช้แบตเตอรี่ลิเธียมและสามารถถ่ายภาพได้ประมาณ 450 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สำหรับช่างภาพมืออาชีพที่มีเลนส์หลายตัวถูกใจกล้องรุ่นนี้เนื่องจากสามารถใช้กับเลนส์อื่น ๆ ได้มากถึง 50 ชนิด ในกรณีที่เพื่อน ๆ มีเลนส์ตัวเก่าอยู่หลายตัวและไม่อยากทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็สามารถนำมาใช้กับกล้องรุ่นนี้ได้ โดยใช้กับเลนส์สองช่วง นั่นคือ 12-40 มิลลิเมตร F/3.5-5.6 และ 42.5 มิลลิเมตร F/1.8

กล้องในตระกูล Olympus ก็เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่ตีตลาดมาคู่กับ Canon และ Sony โดยที่มีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีและคุณภาพของกล้อง รุ่นนี้มาพร้อมกับเลนส์ขนาด 14-42 มิลลิเมตร โดยความละเอียดภาพสูงสุดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ของกล้องรุ่นนี้ใช้แบบ Micro 4/3 และตัวกล้องสามารถปรับป้องกันภาพสั่นไหวได้ถึง 5 แกน ความไวแสงของกล้องรุ่นนี้ก็ยังอยู่ที่ประมาณ 100 ‐ 25600 และสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดสูงถึง 4K พร้อมถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse ได้ หน้าจอของกล้องสามารถปรับปรุงได้โดยมีขนาด 3 นิ้ว ช่องมองภาพเป็นแบบ Eye-level OLED ดีไซน์ที่ออกแบบมาให้กะทัดรัดและใช้งานง่ายแต่ยังคงคุณภาพของความเป็น Olympus สูงโดยเพิ่มการป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนภายในตัวกล้อง ทำให้ช่างภาพมือสมัครเล่นหรือการถ่ายภาพในชีวิตประจำวันก็สามารถถ่ายภาพคุณภาพเยี่ยมได้ด้วยกล้องรุ่นนี้ ตัวกล้องทำจากโลหะและสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ แต่จุดโฟกัสอัตโนมัติของกล้องตัวนี้อาจจะไม่มากเหมือนของตระกูลอื่นซึ่งอยู่ที่ 81 จุด นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังให้เพื่อน ๆ ที่ชอบความสะดวกสบายในการส่งภาพหรือแชร์ภาพถ่ายได้สะดวกขึ้นสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารเข้ากับตัวกล้องผ่าน Wi-Fi ได้ ถึงแม้ว่ากล้องในตระกูล Olympus นั้นจะโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในตัวกล้องแต่มีข้ออยู่อย่างหนึ่งนั่นคือความละเอียดภาพอาจจะไม่สูงมากนะเพื่อน ๆ ต้องการใช้งานกล้องแบบช่างภาพมืออาชีพ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ใช้งานแบบทั่วไปโดยที่ไม่ต้องการภาพความละเอียดสูงปี๊ด หรือต้องการขยายภาพให้ใหญ่มาก ๆ ด้วยความละเอียดเท่านี้ก็ถือว่ามากแล้ว อย่าลืมว่า ยิ่งถ่ายภาพในความละเอียดสูงมากเท่าไหร่ยิ่งจะกินพื้นที่บนหน่วยความจำของเรานั่นเอง