ฟูจิ คาดตลาดกล้องดิจิตอลปีนี้โต 6 %

นายสิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกล้องถ่ายภาพดิจิตอล ภายใต้แบรนด์ ฟูจิฟิล์ม เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากปัญหาการเมืองภายในประเทศไทยเป็นหลักที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการและการใช้จ่ายกับกล้องถ่ายภาพดิจิตอล โดยบริษัทวิจัยตลาด จีเอฟเค คาดการณ์ว่าปีนี้ ภาพรวมตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตราว 6% ในแง่ปริมาณ หรือคิดเป็นจำนวน 1.15 ล้านตัว ส่วนในแง่มูลค่าคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพียง 4% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 9,000 ล้านบาท

“การคาดการณ์ดังกล่าวคำนวณโดยลบกับปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองแล้ว ซึ่งหากไม่มีปัญหาทางการเมืองในประเทศไทยคาดว่าตลาดกล้องดิจิตอลจะเติบโตได้มากกว่านี้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากตลาดไทยยังมีความต้องการกล้องดิจิตอลอยู่เป็นจำนวนมาก และผู้บริโภคที่มีรุ่นกล้องราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาท อยู่แล้วจะซื้อกล้องตัวใหม่ทดแทนตัวเก่า เพราะต้องการเทคโนโลยีใหม่ รูปลักษณ์ ดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ๆ ที่กล้องตัวเดิมที่ไม่รู้ไม่มี คล้ายพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือที่มีการเปลี่ยนเครื่องบ่อย และประการสุดท้าย คือ กล้องดิจิตอลในปัจจุบันมีราคาถูกลง หรือมีราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาทเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจซื้อได้ง่าย ผู้บริโภคระดับรากสามารถซื้อได้” นายสิทธิเวช กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเติบโตทางด้านยอดขายกล้องดิจิตอลไว้ที่ 1.5 แสนตัว จากปีที่ผ่านมาสามารถปิดยอดขายได้ที่ 1.35 แสนตัว เพื่อผลักดันให้บริษัทมีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มเป็น 15% จาก 12% ในปัจจุบัน และจะทำให้ ฟูจิฟิล์ม ขึ้นเป็นผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทยเป็นอันดับที่ 3 แทนที่แบรนด์ซัมซุง ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 14% ส่วนผู้นำตลาดอันดับที่ 1 ยังคงเป็น โซนี ด้วยส่วนแบ่งตลาด 27% และ ผู้นำตลาดอันดับที่ 2 คือ แคนนอน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 19%

ทั้งนี้ แผนการทำตลาดหลักของบริษัทในปีนี้ยังคงอยู่ที่ร้านถ่ายรูป หรือ โฟโต้ ช้อป ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่บริษัทคุ้นเคย ที่มีกว่า 1,000 ร้านค้าทั่วประเทศไทย รวมถึงการวางจำหน่ายกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ที่ปีนี้มีแผนจะว่างตลาดทั้งหมด 12 รุ่น แบ่งเป็นกล้องดิจิตอลราคาแพงกว่า 1 หมื่นบาท 3 รุ่น และราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาท 9 รุ่น พร้อมกับใช้งบส่งเสริมตลาดเป็นเงินทั้งสิ้น 25 ล้านบาท ส่งเสริมตลาดผ่านสื่อครบวงจร

ส่วนภาพรวมตลาดกล้องดิจิตอลในปีที่ผ่านมาไม่เติบโตและติดลบถึง 8% ในแง่ปริมาณ หรือคิดเป็นจำนวน 1 ล้านตัว ส่วนในแง่มูลค่าไม่มีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกัน และยังติดลบถึง 22% อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจซบเซา และการเมืองเป็นหลัก ทำให้ผู้ประกอบการกล้องถ่ายภาพดิจิตอลต่างๆ หันมาแข่งขันทางด้านราคา ซึ่งในที่สุดส่งผลให้ตลาดรวมในแง่มูลค่าลดลงอย่างมาก

นายสิทธิเวช เผยต่อว่า ภาพรวมตลาดกล้องดิจิตอลในปีที่ผ่านมาแบ่งเป็นกล้องดิจิตอลคอมแพ็ค 94% และกล้องดิจิตอลแบบดีเอสแอลอาร์ 6% และจากปัญหาเศรษฐกิจทำให้ราคากล้องดิจิตอลลดลงมาก โดยราคากล้องที่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท มีถึง 80% ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค คือ โมเดิร์นเทรด เช่น พาวเวอร์บาย พาวเวอร์มอลล์ เป็นต้น คาดว่าในปีนี้ช่องการจัดจำหน่ายนี้จะเติบโตในทิศทางที่ดีอยู่